-->

Hot Topics

จุดกำเนิด "กล้องจุลทรรศน์" และวิวัฒนาการกล้องส่องขยายที่ใช้กันทั่วโลก

 การกำเนิด “กล้องจุลทรรศน์” ที่ทำให้โลกรู้จักสิ่งมีชีวิตที่เล็กที่สุดที่เรียกว่า เซลล์


ปฎิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้ ความรู้และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันล้วนถูกพัฒนามาจากนักประดิษฐ์ในอดีตและสิ่งหนึ่งที่สำคัญจนทำให้มนุษย์รู้จักกับสิ่งมีชีวิตที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า “เซลล์”  


กล้องจุลทรรศน์ (Microscope) หนึ่งในสิ่งประดิษฐ์ล้ำค่าของนักชีววิทยา นักวิทยาศาสตร์ และอื่น ๆ อีกมากมายชิ้นนี้ ถูกพูดถึงจุดกำเนิดที่ไม่แน่นอนนักซึ่ง


ในปี 1590 สิ่งที่ใกล้เคียงกับ “กล้องจุลทรรศน์” เป็นที่รู้จักกันครั้งแรกเกิดขึ้นโดย Zacharias Janssen ช่างทำแว่นตาชาวดัตช์ที่ประดิษฐ์ “กล้องจุลทรรศน์เลนส์ประกอบ” จากแว่นขยาย 2 ชิ้นและท่อเหล็ก 3 ท่อ เส้นผ่าศูนย์กลาง 2 นิ้ว ความยาว 13 นิ้ว


โดยเลนส์ชิ้นแรกจะถูกติดใกล้กับวัตถุ และอีกชิ้นจะติดใกล้กับช่องมองภาพ มีกำลังขยายสูงสุด 9 เท่าเมื่อยืดท่อออกไปสุด และเมื่อหดท่อลงมาจะได้มีกำลังขยาย 3 เท่า 



ต่อมาในปี 1665 กล้องจุลทรรศน์กลายมาเป็นที่สนใจจาก Robert Hooke ที่ได้พัฒนาลำกล้องป้องกันแสงรบกวนจากภายนอกเพิ่มความคมชัดของวัตถุ Hooke ใช้กล้องจุลทรรศน์ส่อง ไม้คอร์ก จนเห็นซากพืชขนาดเล็ก ที่มีลักษณะคล้ายกับห้องพักสี่เหลี่ยมของพระที่เรียกว่า Cellula และได้ตั้งชื่อซากเหล่านี้ว่า เซลล์ (Cells) นับแต่นั้นเซลล์จึงถูกนำมาใช้เรียกแทนหน่วยของสิ่งมีชีวิตที่มีขนาดเล็กที่สุด


ปี 1670 กล้องจุลทรรศน์ได้ถูกพัฒนาให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนสามารถมีกำลังขยายได้สูงถึง 270 เท่า โดย Van Leeuwenhoek นักวิทยาศาสต์ชาวดัตช์ ซึ่งถือว่า “บิดาแห่งวิชาจุลชีววิทยา” เป็นนักจุลวิทยาคนแรกของโลกที่พบ เส้นใยในกล้ามเนื้อ แบคทีเรีย สเปิร์มในสัตว์เพศผู้ และการไหลเวียนของหลอดเลือดฝอย


ตลอดเวลาหลายร้อยปี กล้องจุลทรรศน์ถูกพัฒนามาไกลจากเดิมมากโดยถูกแบ่งออกเป็น กล้องจุลทรรศน์ที่ใช้แสง ที่มีกำลังขยายสูงสุดไม่เกิน 2,000 เท่า และ  “กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน” ที่ใช้เลนส์ไฟฟ้าสถิตและแม่เหล็กไฟฟ้าในการควบคุมแสงอิเล็กตรอนส่องผ่านเพื่อสร้างเป็นภาพ ซึ่งมีกำลังขยายสูงกว่า 10 ล้านเท่าเลยทีเดียว

นี่คือเกสรดอกไม้ผ่านกล้องจุลทรรศน์การสแกนด้วยเลเซอร์





ไม่มีความคิดเห็น