จุดเริ่มต้นของ "การกำจัดขนรักแร้" ในผู้หญิง ค่านิยมที่ถูกมองว่าดูไม่เหมาะกับผู้หญิงเกิดขึ้นได้อย่างไร

"การกำจัดขนรักแร้" ในผู้หญิง มีที่มาที่ไปอย่างไร และเกิดขึ้นได้อย่างไรมาดูกัน

ขนรักแร้ ได้กลายเป็นศัตรูร้ายที่ทำลายความมั่นใจของสาว ๆ เกือบทุกคนในยุคนี้เลยก็ว่าได้

ทั้งที่ขนใต้วงแขนเหล่านี้เหล่าผู้ชายไว้กันยาวเฟิ้ม โดยที่คนส่วนใหญ่มองเป็นเรื่องปกติซึ่งมันช่างต่างจากผู้หญิงอย่างสิ้นเชิง  

การกำจัดขนรักแร้ของผู้หญิง คือหนึ่งในตลาดที่ดีที่สุดชิ้นหนึ่งของวงการแฟชั่นก็ว่าได้ ซึ่งส่งผลต่อเนื่องจนกลายเป็นวัฒนธรรมที่สาว ๆ พยายามกำจัดขนรักแร้และทำให้มันดูเรียบเนียน

จุดเริ่มต้นของการกำจัดขนรักแร้ของสาว ๆ ในสหรัฐฯ คือ The Great Underarm Campaign ปี 1908 การโฆษณาให้สาว ๆ ทำกำจัดโกนขนรักแร้เพื่อความสะอาดและเพื่อความงาม โดยกลุ่มเจ้าของธุรกิจผลิตภัณฑ์กำจัดหนวดของผู้ชายที่พยายามจะขยายตลาดไปสู่ลูกค้าผู้หญิง (หลังรวยเละจากการขายมีดโกนให้ทหารสหรัฐฯ ใช้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ) นั่นเอง 

หนึ่งในหลักฐานโฆษณายุคแรก ๆ เป็นภาพหญิงสาวใส่ชุดเดรสเปิดไหล่โชว์ความเนียนใต้วงแขน บนหน้าปกนิตยสารแฟชั่น Harper's Bazaar “ฮาร์เปอร์บาร์ซาร์” ที่มีอิธิพลต่อสาววกความงามในอังกฤษและสหรัฐฯ เป็นอย่างมากในช่วงเวลานั้น 

ตัวอย่างของหน้าปกนิตยาสาร Harper's Bazaar

โฆษณาแฟชั่นใหม่ “เดรสแขนกุด” สำหรับฤดูร้อน พร้อมกับโฆษณาผงกับจัดขนรักแร้แบรนด์ “X Bazin” เป็นอะไรที่เข้ากันอย่างลงตัวการกำจัดขนรักแร้เพื่อโชว์ใต้วงแขนสำหรับเดรสแขนกุด

ซึ่งมันก็ได้รับการตอบรับอย่างดีแบบถล่มทลาย สาว ๆ ในยุคนั้นจึงเริ่มหันมากำจัดขนใต้รักแร้กันอย่างแพร่หลายนับแต่นั้นเป็นต้นมา 

ค่านิยมการกำจัดขนรักแร้ในยุโรป โดยเฉพาะในสหรัฐ ฯ ได้ขยายไปยังธุรกิจถุงน่อง ซึ่งประโยชน์ของมันก็คือช่วยให้ขาดูเรียบเนียนจากขนอันไม่พึงประสงค์ แต่เพราะภาวะสงครามโลกครั้งที่ 1 ทำรัฐบาล ฯ ประกาศขึ้นภาษา 20 % ผลิตภัณฑ์ความงามรวมถึงถุงน่อง

ทำให้ถุงน่องแพงและขาดตลาด จนสาว ๆ เริ่มหันมาโกนขนขาทิ้งแทน ผลพลอยได้เลยมาตกอยู่ที่ ผลิตภัณฑ์กำจัดขนแทนนับแต่นั้น

เรียบเรียง : mhajaid