หากไม่มีพี่ Youtube ในวันนั้นก็คงไม่มีน้อง Netflix ในวันนี้

เรื่องราวของบริษัทเช่าหนังที่หมุนไปตามกระแสโลก จนก้าวมาเป็นบริษัทสตีมมิ่งหนังที่ใหญ่ที่สุดในโลกเพราะกล้าคิดกล้าทำ!

หากคิดว่าที่ทำอยู่มันก็ดีอยู่แล้ว! ฉันไม่เห็นต้องเปลี่ยนแปลงอะไรเลย ก็ดูกรณีตัวอย่างของร้านเช่าหนังที่แม่งแทบจะไม่มีหลงเหลืออยู่แล้วในบ้านเรา เป็นตัวอย่าง

Netflix คือหนึ่งในบริษัทธุรกิจเช่า-ยืมภาพยนตร์ในสหรัฐอเมริกาที่เริ่มพบปัญหาไม่ต่างจากทุกวันนี้คือ หนังออนไลน์เถื่อน ที่ส่งผลกระทบกับธุรกิจภาพยนตร์ไปทั่วโลก

แล้วการแก้ไขก็คือ! ผุดโปรโมชั่นการยืมเช่าแบบไม่จำกัดเรื่องไม่จำกัดเวลา แต่มันก็ดูจะไม่ค่อยเวิร์คในระยะยาว ต่อด้วยการสร้างกล่องดูทีวีให้คนได้โหลดจากอินเตอร์เน็ตไปดูที่บ้านได้ แต่ก็ไม่เวิร์คอยู่ดี เพราะต้นทุนของกล่องนี้มีราคาสูงเกินไป

.

แล้วในช่วงเวลานั้น (ปี 2000) เว็บไซต์ชื่อ Youtube แม่งเป็นอะไรที่บูมโคตรๆ ใครๆ ก็พูดชื่อของ Youtube กันหมด

นี่คือช่วงที่เป็นทั้ง “วิกฤตและโอกาส” ของธุรกิจภาพยนตร์ในเวลาเดียวกัน หากจะบอกว่าหากไม่มี Youtube ในวันนั้นก็คงไม่มี Netflix เลยก็ได้ เพราะทาง Netflix ได้พัฒนาแนวคิดใหม่ให้มีรูปแบบเดียวกับ Youtube ที่เข้าถึงได้ทุกทีทุกเวลาตราบที่มีอินเทอร์เน็ต

.

ประกาศศักดาด้วยการสร้างระบบสตีมมิ่งหนังออนไลน์เป็นเจ้าแรกๆ ขึ้น ผลตอบรับก็ดีเกินคาดคนแห่มาสมัครด้วยโปรโมชั่นที่ไม่ต่างจากเดิมคือ “ดูได้ไม่จำกัดเรื่อง-เวลา” เก็บเงินแบบรายเดือน-ปี ไม่หยุดแค่บนคอมเท่า ยังพัฒนาแอปพลิเคชั่น ลงมือถือ เครื่องเกม สมาร์ททีวี อะไรเข้าเน็ตได้ก็สามารถดู Netfilx ได้!
.
และนี่คือ Nexflix บริษัทสติ่มมิ่งที่ใหญ่ทีสุดในโลก จนตอนนี้สร้างซีรีส์ที่คนติดกันง่อมแงมและหนังเป็นของตัวเอง ซึ่งอาจจะไม่หยุดแค่นี้ เพราะก้าวต่อไปอาจหมายถึง “ค่ายหนัง” ที่มาคับเคี่ยวกับค่ายหนังยักษ์ใหญ่ๆ ธุรกิจภาพยนตร์ ได้หากไม่โดนซื้อไปก่อนอะนะ

แพร่มโดย : mhajai-d